ตลาดอสังหา ฯ มีความอ่อนแออยู่เป็นทุนเดิมจากผลกระทบมาตรการ LTV ในปี 2019 และหดตัวลงอย่างต่อเนื่องในปี 2020 เนื่องจากพิษโควิด 19 ซึ่งเกิดตากกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงมาก ส่งผลให้ยอดขายและโอนปรับตัวลง อีกทั้งการปรับตัวจากผู้ประกอบการที่เลื่อนเปิดโครงการใหม่ ๆ ออกไป โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม และมาสนใจที่โครงการแนวราบมากขึ้น อีกทั้งยังระบายโครงการที่ยังเหลืออยู่ด้วยเช่นกัน
ตลาดอสังหา ฯ ในช่วงที่เกิดการระบาด โควิด 19
การระบาดของโควิด 19 ทำให้เกิดมาตรการ Lockdown ทำให้ผู้บริโภคชะลอการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงยอดขายจากต่างชาติหยุดชะงักลงจากการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้ยอดขายของหลาย ๆ โครงการปรับลดลงและชะลอการเปิดโครงการใหม่ออกไป โดยสังเกตได้ว่า โครงการที่เปิดใหม่นั้นมีอัตราการขายที่ปรับลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ และบริษัทใหญ่เริ่มหันมาเจาะตลาดแนวราบมากขึ้น ทำให้อัตตราการขายของบริษัท ที่มีการจดทะเบียนในตลาด มีการขายที่สูงกว่าบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียน เพราะบริษัทใหญ่เน้นการแข่งขันเรื่องโปรโมชั่นต่าง ๆ รวมถึงมีการระบายสต็อกของตัวเองอย่างต่อเนื่องและมีช่องทางในการขายที่หลากหลาย เช่นช่องทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ
EIC คาดการณ์ ยอดขายของผู้ประกอบการจะกลับมาเป็นปกติก่อนมีโควิด 19 ในช่วงปี 2022
เพราะโควิด 19 ทำให้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคเป็นวงกว้าง แม้ว่าสถานการณ์จะปรับตัวดีกว่าในช่วงแรก แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็ยังต้องอาศัยเวลาในการสะสมเรื่องทางการเงินต่าง ๆ โดย EIC ประเมินว่ายอดขายจะกลับมาใกล้เคียงกับในช่วงปี 2019 ก่อนเกิดเหตุการณ์โควิดได้ คือในช่วงครึ่งหลังปี 2022 โดยกลุ่มที่จะเป็นกลุ่มที่ทำให้ตลาดฟื้นตัวคือกลุ่มกำลังซื้อระดับกลาง โดยโครงการแนวราบจะเป็นตลาดที่มีสัดส่วนหลักเพราะตอบโจทย์กลุ่มที่เป็น Real Demand ที่อยู่อาศัยจริงมากที่สุด โดยกลุ่มกำลังซื้อน้อยนั้นก็จะเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวได้ช้า เช่นเดียวกับกลุ่มชาวต่างชาติที่คาดว่าคงจะไม่ฟื้นตัวในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน
ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ตลาดอสังหา ของผู้ประกอบการเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
เราสามารถสังเกตได้จากหลาย ๆ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงซึ่งหบายบริษัทก็เริ่มใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมให้กับบริษัท เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและช่วยส่งเสริมการขายในหลาย ๆ ช่องทาง โดยการเลือกซื้อบ้านและคอนโดผ่านช่องทาง Online ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายที่สุดในช่วงที่มีการแพร่ระบาด อีกทั้งการนำเทคโนโลยี AR และ VR เพื่อให้เห็นภาพสถานที่จริง หรือการ LIVE สด ก็เป็นช่องทางที่ช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคได้มากขึ้นเช่นกัน
การเลือกทำเลก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง เพราะในอนาคตผู้บริโภคจะคิดถึงการใช้สอยพื้นที่ในการเลือกซื้อ เพราะหลาย ๆ บริษัทที่มีการทำ Work Form Home ทำให้ผู้บริโภคต้องใช้สอยพื้นที่มากขึ้นภายใต้งบประมาณเท่าเดิม ส่งผลให้บ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์ย่อมได้รับความสนใจมากกว่าคอนโดมิเนียมในเมือง โดยหากทำเลอยู่ไกลเมืองแต่ใกล้รถไฟฟ้าก็จะมีสิทธิ์ที่จะได้รับความสนใจ เพราะการมีรถไฟฟ้าก็สามารถทำให้การเดินทางนั้นมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
การฟื้นตัวเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่การปรับตัวเป็นเรื่องที่ควรทำให้รวดเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็กหรือรายใหญ่ก็ตาม เพราะในเวลานี้ การที่เราเข้าถึงตัวผู้บริโภค ปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในทุก ๆ วัน เข้าใจสิ่งที่คนเหล่านี้ต้องการ รวมถึงสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป สิ่งเหล่านี้ก็จะยิ่งส่งเสริมให้โครงการน่าสนใจกว่า พร้อมปิดการขายได้รวดเร็วกว่าคู่แข่งแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่า ตัวคุณที่เป็นผู้ประกอบการนั้น พร้อมที่จะเข้าสู่ Digital Transformation ในวงการอสังหา ฯ แล้วหรือยัง