ตัวชี้อสังหาริมทรัพย์ สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจ

ตัวชี้อสังหาริมทรัพย์ วัดเศรษฐกิจประเทศ

ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ปรับประมาณการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2560 และปี 2561 เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2560 โดยมีการประเมินว่าปี 2560 จีดีพี (GDP)จะขยายตัวเพิ่มเป็น 4% จาก 3.8% ซึ่งสูงกว่าปี 2559 ที่เติบโตที่ 3.2% ในขณะที่ปี 2561 ได้ปรับประมาณการเพิ่มจาก 3.8% เพิ่มเป็น 4.2% โดยการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2560 ที่ 4% ถือว่าเป็นการโตสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา

นับตั้งแต่ปี 2555 ที่ขยายตัว 7.2% และยังมีทิศทางเติบโตอย่างแข็งแกร่งจนถึงปีนี้ จากตัวเลขประมาณการทั้งปี 2560 และปี 2561 ที่ออกมาล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจได้เริ่มปรับตัวดีขึ้นมาตั้งแต่ปี 2560 แม้ว่าจะมีเสียงสะท้อนออกมาจากภาคประชาชนว่าการเติบโตที่เห็นเป็นเพียงตัวเลข และประชาชนไม่ได้รับรู้ว่าสภาพเศรษฐกิจรอบตัวดีขึ้นแต่อย่างใด

ประเด็นนี้มีการพูดถึงกันในวงกว้าง และมีการจัดเสวนาเพื่อถกกันว่าจริงๆแล้วเศรษฐกิจไทยดีตามตัวเลขจีดีพี (GDP) หรือไม่ อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ผมมีข้อมูลที่พบว่าในปี 2561 ความเชื่อมั่นในภาคของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์นั้นถือว่ากลับมาในทิศทางบวก มีการลงทุนโครงการที่เจาะกลุ่มตลาดระดับประชาชนทั่วไป

จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ที่จะเน้นตลาดระดับบน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ในปี 2561 กลับพบว่า อัตราการเติบโตอสังหาริมทรัพย์หากเทียบทั้งตลาดบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์
และคอนโดมิเนียม คาดว่าทาวน์เฮ้าส์จะเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด รองลงมาคือคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว ซึ่งอัตราการขยายตัวน่าจะใกล้เคียงกับปี 2560

ข้อมูลนี้เป็น ตัวชี้วัดอสังหาริมทรัพย์ สะท้อนได้ว่าผู้ประกอบการได้ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจที่เริ่มมีสัญญาณดีมาตั้งแต่ปี 2560 และน่าจะมีแรงส่งไปถึงภาคประชาชนในปี 2561 แม้ว่าปัจจุบันภาคประชาชนอาจจะยังไม่รู้สึกว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ล่าสุดรัฐบาลประกาศประกาศปรับค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเป็นการส่งผ่านการขยายตัวของเศรษฐกิจไปยังประชาชนโดยตรงให้ได้ประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้การที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีความมั่นใจขยายโครงการไปสู่ตลาดทาวน์เฮ้าส์ ราคาเฉลี่ยประมาณ 2-3 ล้านบาทนั้น ก็เป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เนื่องจากการซื้อบ้านถือเป็นการสร้างหนี้สินผูกพันระยะยาว การที่ประชาชนจะตัดสินใจซื้อบ้านได้นั้นต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนซื้อ

อย่างไรก็ตามในปี 2561 มีปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีในหลายปัจจัย โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐถือเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ต่อเนื่องจากแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วนปี 2559 และปี 2560 ที่คาดว่าจะมีโครงการขนาดใหญ่เริ่มเข้าสู่กระบวนการก่อสร้างได้มากขึ้นในปี 2561

และโครงการเหล่านี้ก็จะผลักดันให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโตเป็นเงาตามตัว ซึ่งก็ได้เห็นโครงการคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮ้าส์ขยายตัวไปตามโครงการคมนาคมต่างๆ เช่นโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายตามทำเลชานเมือง ก็จะทำให้เกิดการกระจายของภาคเศรษฐกิจต่อเนื่องไปสู่ชุมชนและไปถึงประชาชนในที่สุด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : พลัส พร็อพเพอร์ตี้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytic และ Facebook Pixel

    เราได้มีการใช้งาน Google analytic และ Facebook pixel เพื่อช่วยให้เราส่งมอบประสบการณ์การใช้งานของเว็บไซต์ได้อย่างดียิ่งขึ้น

Save