ผู้ประกอบการเตรียมตัวรับมือมาตราการ LTV กระทบแน่
เป็นที่รู้ๆกันว่าตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป การ รองรับ LTV จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบคงหนีไม่พ้น ผู้บริโภค ผู้ประกอบการอสังหาฯ เล็ก-กลาง-ใหญ่และธุรกิจอสังหาฯ
______________________________________________________________
แล้วผู้ประกอบการต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ต้องทำยังไงไม่ให้ลูกค้าตื่นตระหนก ไม่ให้กระทบยอดการโอนและยอดขาย (Pre-sale)โครงการใหม่ แต่! ผู้ประกอบการยังมีหวังและชะล่าใจไม่ได้
เพราะมีข่าวแว่วมาว่า นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ได้เสนอแนะธปท. ว่า หากจะปรับ LTV ควรให้เวลาผู้บริโภคที่ซื้อหรือผ่อนที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว แล้วกำลังวางแผนเพื่อซื้อในอนาคต ได้เตรียมตัวรองรับมาตราการอย่างน้อยอีกครึ่งปี หรืออาจประกาศมาตราการใหม่ ให้มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 หรือนี่อาจจะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เร่งยอดโอนได้มากขึ้น จะเป็นอย่างไรต้องติดตามต่อไปนะคะ
______________________________________________________________
วิธีปฏิบัติเบื้องต้นเตรียมตัว รองรับ LTV
- ปรับการสื่อสารเพื่อไม่ให้ลูกค้าตื่นตระหนก
— แน่นอนว่าการออกมาตราการของธปท.แบบนี้ ลูกค้าหลายคนคงตกใจและเป็นกังวลแน่นอน
— เพราะฉะนั้นเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและหาทางออกให้ง่ายขึ้น ผู้ประกอบการควรปรับการสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า เราจะคอยอยู่เคียงข้างลูกค้าและพร้อมช่วยเหลือในทุกๆเรื่องเพื่อความฝันของทุกคน - ร่วมมือกับธนาคารเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับลูกค้า
— การให้ความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการ นักพัฒนาและธนาคารควรทำร่วมกัน
— เพราะจะทำให้ลูกค้านั้นเข้าใจในมาตราการ LTV การคิดอัตราดอกเบี้ย การรีไฟแนนซ์ การยื่นกูมากขึ้น และเป็นผลดีต่อการวางแผนในอนาคต - สร้างความชัดเจนในหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
— เช่น การนับระยะเวลาจนกว่าจะมีผลบังคับใช้ ว่าจะทำสัญญาในอีกกี่วัน วันไหน วันจดจำนองหรือวันที่ยื่นกู้ - เร่งโอนโครงการที่กำลังดำเนินการให้ทันก่อนเกณฑ์ใหม่บังคับใช้
— การเร่งโอนนั้นเป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวลูกค้าและผู้ประกอบการเอง เพราะลูกค้าจะได้ผลประโยชน์การโอนมาตราการ LTV บังคับใช้
— ในส่วนของผู้ประกอบการก็จะสามารถปิดยอดการโอนได้เร็วขึ้น เร่งขายห้องได้มากขึ้น เพราะถ้าหากมากตราการบังคับใช้แล้วจะทำให้การขายห้องหรือบ้านนั้นยากมากขึ้น และยอดโอนยอดจองก็จะชะลอตัว - ชะลอการเปิดตัวโครงการ
— สำหรับโครงการที่จะเปิดตัวในอนาคตข้างหน้าควรชะลอตัวไว้ก่อน เพื่อคอยดูมาตราการของ ธปท ว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร
— รวมทั้งแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ดีมานด์ด้านอสังหาจะเป็นอย่างไร เพื่อจะได้คาดการแนวโน้มในอนาคตได้