ในช่วงปี 2020 นี้ถือว่าเป็นปีที่กระทบไปถึงระดับโลก เพราะวิกฤติโควิด 19 ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้วิถีชีวิตของคนในยุคนี้เปลี่ยนแปลงไป เกิดคำศัพท์ใหม่นั่นก็คือคำว่า new normal โดยความเป็น New Normal นั้นถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนต้องการพื้นที่ที่อยู่อาศัยให้กับตัวเองมากขึ้น จากการเกิดเทรนด์ใหม่ของหลาย ๆ องค์กรอย่าง Work Form Home เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ก็ยิ่งทำให้คนต้องการพื้นที่และที่อยู่อาศัยของตัวเองมากขึ้นไปอีก ทำให้ตลาด อสังหาแนวราบ กลายมาเป็นตลาดที่น่าสนใจและทำให้คนเริ่มสนใจตลาดนี้มากกว่าตลาดคอนโด เหมือนอย่างในอดีต
ไตรมาสแรกและสอง อสังหาแนวราบ ขยายตัวสูงขึ้น
โดยจากสภาพแวดล้อมและเทรนด์ที่เปลี่ยนไปทำให้ไตรมาสแรกและไตรมาสที่สอง ยอดขายของตลาด อสังหาแนวราบขยายตัวสูงขึ้นมาก โดยส่งผลให้ผู้ประกอบการหันไปลดจำนวนการสร้างคอนโด และเพิ่มในส่วนของการลงทุนแนวราบแทน โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2563 ตลาดบ้านแนวราบจะกลับมามามีสัดส่วนยอดขายที่สูงกว่าคอนโด เมื่อเทียบกับในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ความเจริญในย่านชานเมือง ตอบโจทย์ให้ผู้บริโภคหันมาสนใจ อสังหาแนวราบ มากขึ้น
เพราะในย่านชานเมืองเริ่มมีการขยายตัว เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงพยาบาล หรือห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา อีกทั้งยังมีเรื่องระบบขนส่งรถไฟฟ้าที่ครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและโดยรอบ ทำให้การทำงานในเมืองนั้นรวดเร็วกว่าสมัยก่อนมาก ด้วยเหตุนี้จึงกลายมาเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยซื้อบ้านแนวราบเพิ่มมากว่าขึ้นกว่าสมัยก่อน
ด้วยเหตุนี้ทำให้ที่ผ่านมาผู้ประกอบการลดการพัฒนาคอนโดและเพิ่มโครงการแนวราบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ทาวเฮ้าส์ โดยจากตัวเลขของบริษัทวิจัยตลาดอสังหา ฯ หลาย ๆ รายนั้นสื้อนให้เห็นว่าในไตรมาสแรกมีการเพิ่มขึ้นของโครงการแนวราบในสัดส่วนที่สูงขึ้น โดยในไตรมาสแรกผู้ประกอบการอสังหา ฯ เปิดตัวโครงการบ้านแนวราบสูงถึง 80% โดยที่โครงการคอนโดมีสัดส่วนที่ลดลงมาอยู่ที่แค่ 20% จากที่ก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวสูงอยู่ที่ 60%
ผลวิจัยของธนาคารเกียรตินาคิน เกี่ยวกับบ้านแนวราบพบว่ามีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบมีอัตราการขายที่ดีมาก โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท โดยทำเลที่ได้รับความนิยมในทำเลย่านชานเมืองเช่น ย่านจังหวัดนนทบุรี ย่านรังสิตคลอง 1-3 โซนตะวันออกกลางเช่นย่านบางนาตราด เป็นต้น
นอกจากนี้ตลาดอสังหาแนวราบ ยังดันให้ที่ดินราคาสูงขึ้นไปอีก
คุณประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบจังหวัดนนทบุรี ได้กล่าวว่าที่นนทบุรีนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยการเปิดรถไฟฟ้าส่งผลเรื่องการปรับตัวราคาที่ดินเป็นอย่างมาก ทำให้บริษัทอสังหารายใหญ่ขยายการลงทุน มีการแข่งขันเพิ่มเติมตามไปด้วย
ซีอีโอ แมตช์ไทม์ พร็อพเพอร์ตี้ คุณไพโรจน์ วัฒนวโรดม ก็กล่าวว่าราคาที่ดินขึ้นไม่หยุด ประเมินจากการเปิดตัวโครงการทาวน์โฮมแบรนด์ นิวเบอร์รี่ วิลเลจ ที่บานนา-ตราด กม.31 ซื้อที่ดินสะสม 1-2 ปีราคาไร่ละ 3.5 ล้านบาท โดยปัจจุบันขยับเป็นไร่ละ 5 ล้านบาท
กลุ่มพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยรวมถึงที่อยู่อาศัยก็เปลี่ยนตาม ทำให้สะท้อนได้เป็นอย่างดีเลยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบ ที่กำลังเป็นที่ตอบโจทย์ให้กับกลุ่ม New Normal แม้ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในประเทศไทยก็ตาม
สนใจ โปรแกรม PLOY สามารถขอ Demo ทดลองใช้ฟรีได้แล้ว
>> คลิกที่นี่ <<

Credit :
https://www.prachachat.net/