ในโลกปัจจุบัน ธุรกิจอสังหาฯ กำลังปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิตัล เนื่องจากการทำการตลาดออฟไลน์เพียงอย่างเดียวมันไม่เพียงพอแล้ว เพราะการแข่งขันทางธุรกิจที่ดุเดือด และยังมีปริมาณเหลือขายที่มากเกินความต้องการของผู้บริโภค ประกอบกับเทคโนโลยีมีการเกิดขึ้นใหม่อยู่เสมอ ทำให้วงการอสังหาริมทรัพย์หลาย ๆ แบรนด์ได้นำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินธุรกิจไปจนถึงเครื่องมือที่ช่วยในการวางแผนด้านการตลาดออนไลน์เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
การตลาดออนไลน์มีความสำคัญกับ ธุรกิจอสังหาฯ อย่างไร ?
โลกธุรกิจในปัจจุบันมีการถูก Disrupt ด้วยเทคโนลีกันอย่างมากมาย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลง และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งวงการอสังหาริมทรัพย์ก็ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก รวมถึงเป็นสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ทำให้การเข้าหาลูกค้าแบบเดิม ๆ ก็สามารถูกแทนที่ด้วยสิ่งใหม่ ๆ อย่างเทคโนโลยีได้เช่นกัน
การสร้างชื่อเสียงหรือแบรนด์ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นที่รู้จักและจดจำเป็นสิ่งสำคัญ ใครหลาย ๆ คนมักจะพูดว่าการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันนั้นถึงทางตันแล้ว เพราะมีพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่มากมาย รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยเองก็มีอยู่ไม่น้อย ทำให้โครงการในหลาย ๆ พื้นที่เกิดปัญหาในด้านการขาย เนื่องจากจำนวนอสังหาริมทรัพย์มีมากเกินกว่าความต้องการของผู้บริโภค แต่เคยสังเกตุเห็นไหมว่าในขณะที่หลาย ๆ โครงการขายไม่ได้ แต่ทำไมผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ดัง ๆ หลายเจ้าก็ยังมีผู้จอง ผู้ซื้อจำนวนมาก รวมถึงสามารถทำยอดขายได้ทะลุเป้าอีกด้วย นั่นก็เพราะจริง ๆ แล้วยังมีผู้บริโภคที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์อยู่ ซึ่งการทำการตลาดออนไลน์ ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถเข้ามาช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ รวมถึงช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า และปิดการขายได้
ตั้งเป้าหมายในการทำ ธุรกิจอสังหาฯ ให้ชัดเจน
โดยส่วนใหญ่การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มักจะแบ่งวิธีการทำกำไรออกเป็น 2 แบบ นั่นก็คือการปล่อยเช่าและการเก็งกำไร ซึ่งหากคุณจะเริ่มเป็นนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบใด จะได้สามารถวางแผนกลยุทธ์การทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากแนวทางในการดำเนินธุรกิจและการทำการตลาดจะแตกต่างกันออกไป
กำหนดกลุ่มลูกค้าของเราให้ได้
สินค้าและบริการที่แตกต่างกันย่อมมีกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่เหมือนกันเช่นเดียวกับสินค้าที่มีมูลค่าสูงอย่างอสังหาริมทรัพย์ เพราะฉะนั้นผู้ลงทุนจะต้องศึกษาตลาด และมองหากลุ่มของลูกค้าให้ออกว่าเป็นใคร เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และนำเสนอสินค้าและบริการได้อย่างตรงจุด ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทโครงการบ้านเดี่ยวในราคา 4-5 ล้าน กลุ่มเป้าหมายของคุณอาจจะเป็นผู้บริโภควัยทำงานที่การเงินเริ่มมั่นคง และต้องการสร้างครอบครัว รวมถึงความต้องการความเป็นส่วนตัว เป็นต้น ซึ่งหากทราบกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะทำให้เราสามารถนำเสนอกลุ่มสินค้าและบริการได้อย่างตรงกลุ่ม แต่หากเราไม่มีการศึกษาและทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าเรา ก็อาจจะทำให้ผู้ประกอบการหรือผู้ลงทุนอสังหาริมทรัพย์เสียงบประมาณในการทำการตลาดไปมากเกินความจำเป็น
สร้างสตอรี่และคอนเทนต์ที่น่าสนใจ
การบอกเล่าประสบการณ์ ความเป็นมา จุดยืนของแบรนด์ รวมถึงรีวิวจากลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อถือ และตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ของแบรนด์นั้น ๆ เพราะในปัจจุบันผู้บริโภคสามารถค้นหาข้อมูลได้ง่าย และรวดเร็ว การศึกษาสินค้าและบริการที่ตนสนใจย่อมเป็นเรื่องปกติ หากเราผลิตข้อมูลหรือคอนเทนต์ที่น่าสนใจ เช่น วิดิโอนำเสนอโครงการ รูปภาพในมุมต่าง ๆ พาทัวร์โครงการกับคนที่มีชื่อเสียง รวมถึงรีวิวที่มีคุณภาพจากลูกค้าจริง ย่อมเป็นจุดแข็งในการทำการตลาดออนไลน์ และสร้างความน่าเชื่อถือ รวมถึงความน่าจดจำของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ของโครงการได้ง่ายขึ้น
นอกจากการทำการตลาดออนไลน์แล้ว การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสในการขายก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคผ่าน Bigdata และยังมีการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงอย่าง VR (Virtual Reality) ที่สามารถพาลูกค้าชมโครงการจากที่ใดก็ได้ นอกจากนี้ผู้บริโภคยังสามารถตัดสินใจซื้อโครงการได้จากการพูดคุยผ่าน Video Conference ย่อมสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคได้มาก แถมยังเพิ่มโอกาสในการขายให้กับผู้บริโภคใหม่ ๆ ได้อีกมากมาย ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ได้มีการนำไปใช้จริง และสามารถสร้างยอดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลมาแล้วในประเทศยักษ์ใหญ่อย่างประเทศจีน ส่งผลให้ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศมีการหันมาพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประยุกต์ใช้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของตนเองกันอย่างแพร่หลาย