ระบบบริหารงานขายอสังหา ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นในทุกสถานการณ์ ถึงแม้ว่าหลังประกาศชัยชนะจากโรคระบาดโคโรนาไวรัส หรือ COVID-19 ทำให้ประเทศไทยได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่มีการควบคุมโรคระบาดได้ดีอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจในการร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และประชาชน แต่ในทางกลับกันภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย กลับไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะพื้นที่ในเมืองกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ที่มีความต้องการซื้อลดลง ในขณะที่โครงการคอนโดพร้อมขายยังเหลืออยู่จำนวนมากทำให้ต้องมีการปรับปรุง ระบบบริหารงานขายอสังหา เพื่อช่วยในการติดตามและงานขายอย่างมีประสิทธิภาพ
ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อไปจะเป็นอย่างไร
คุณกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำ DDproperty ประเทศไทย ในเครือ PropertyGuru Group ได้วิเคราะห์เทรนด์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ สำหรับปี 2021 ไว้ว่า กลุ่มที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้า มักจะมีราคาตั้งแต่ 1,000,000 ถึง 3,000,000 บาท ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวจะมีราคาตั้งแต่ 5,000,000-10,000,000 บาท จากการขายในช่วงราคานี้จะส่งผลให้ ระบบบริหารงานขายอสังหาฯ สำหรับคอนโดนมิเนียมทำได้ยากขึ้น เพราะมีราคาที่ใกล้เคียงกับทาวน์เฮ้าส์และทาวน์โฮม
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ และ ระบบบริหารงานขายอสังหา ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
หากพูดถึงจังหวัดปทุมธานี เราจะทราบกันดีว่ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งเอื้อต่อการใช้ชีวิตและอยู่อาศัยของประชาชนเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมีการเพิ่มสูงมากที่สุดในรอบปี
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ และ ระบบบริหารงานขายอสังหา ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี
การพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นปัจจัยสำคัญต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีแนวโน้มเติบที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดโครงการจากภาคเอกชนมากมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต และอยู่อาศัยของคนในพื้นที่ เช่น ห้างสรรพสินค้า สำนักงาน เป็นต้น
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ และระบบบริหารงานขายอสังหา ในพื้นที่สมุทรปราการ
ปัจจัยที่มีผลต่อการราคาของอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดสมุทรปราการก็ยังคงหนีไม่พ้นโครงการรถไฟฟ้า อีกทั้งพื้นที่สมุทรปราการยังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าถึงสองสาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีเขียว
การปรับตัวขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ ย่อมส่งผลให้พฤติกรรมการเลือกซื้อของผู้บริโภคเปลี่ยนไป
หลังจากวิกฤติโรคระบาด COVID-19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยมีการถดถอย ซึ่งนับเป็นโชคร้ายและเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะผู้บริโภคมีพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป ทั้งในเรื่องของทุนทรัพย์ ความมั่นคงในการทำงาน หรือแม้กระทั้งนโยบายของการทำงานในบริษัท เช่น Work From Home ซึ่งจากข้อมูลของทาง DDproperty พบว่าผู้บริโภคกว่า 75% หยิบประเด็นเรื่อง Work From Home มาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ทำให้เจ้าของโครงการต้องวางแผนปรับเปลี่ยน ระบบบริหารงานขายอสังหาฯ กันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการลดราคา การให้สินเชื่อ หรือการให้สิทธิพิเศษเพื่อสร้างความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
จบกันไปแล้วสำหรับเทรนด์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในช่วงยุค NEW NORMAL หวังว่าผู้อ่านจะได้ความรู้จากบทความนี้โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวงการการขายอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ปัจจุบันโครงการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีการปรับราคา และให้สิทธิพิเศษมากมายสำหรับผู้ที่ยังมีความต้องการซื้อ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะ
สนใจ โปรแกรม PLOY สามารถขอ Demo ทดลองใช้ฟรีได้แล้ว
>> คลิกที่นี่ <<
