ขอ สินเชื่อ อสังหาฯ ต้องดูอะไรบ้าง?
เมื่อคุณพบเจอ โครงการอสังหาฯ ที่ถูกใจ และพร้อมแล้วที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือเรื่องการเตรียมตัวเพื่อ ขอ สินเชื่อ อสังหาฯ
เพราะคุณจำเป็นจะต้องมีเอกสารต่างๆอย่างครบถ้วน รวมถึงสภาพคล่องทางการเงินที่ดีอีกด้วย มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
- ค่าธรรมเนียมในการยื่นขอสินเชื่อ – โดยปกติเมื่อมีการยื่นกู้ขอ สินเชื่อ โครงการอสังหาฯ จะมีการจัดเก็บอยู่ที่ประมาณ 0-1% ของวงเงินกู้ ซึ่งแล้วแต่หลักเกณฑ์ของแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงินแต่ละแห่ง สมมติว่าคุณยื่นกู้ 1,000,000 ยอดค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท
- ค่าประเมินมูลค่าหลักประกัน – ในกรณีที่อสังหาริมทรัพย์ถูกนำมาจดจำนองกับสถาบันการเงินที่ยื่นกู้นั้น จำเป็นจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์เพื่อกำหนดวงเงินสินเชื่อที่จะได้รับด้วย ซึ่งบางสถาบันการเงินอาจมีโปรโมชั่น ฟรีค่าประเมิน หรือให้คุณจ่ายในอัตราที่ถูกกว่าทั่วไป
- ค่าธรรมเนียมจดจำนอง – คุณต้องเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้ชำระค่าธรรมเนียมจดจำนองร้อยละ 1 ของราคาที่ซื้ออสังหาฯตามสัญญาที่ผู้ซื้อขายทำร่วมกัน เช่นซื้อบ้านราคา 1.2 ล้านก็ต้องจ่ายค่าจด 12,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับกรมที่ดิน
เตรียมค่าใช้จ่ายในการยื่นกู้อสังหาฯให้พร้อม
- ค่าประกันอัคคีภัย – เป็นเงื่อนไขที่ผู้กู้จะต้องทำประกันอัคคีภัยไว้เบื้องต้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงในกรณีเกิดเหตุไฟไหม้ หรือในบางธนาคารอาจมีการกำหนดให้ผู้กู้ทำประกันชีวิตเพื่อที่อยู่อาศัย ในกรณีผู้ทำประกันอาจเสียชีวิตหรือทุพพลภาพในช่วงเวลาที่เอาประกัน ธนาคารจะจ่ายเงินกู้ส่วนที่เหลือให้แทน และโอนกรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของอสังหาฯนั้นๆ ไปยังผู้กู้หรือทายาทต่อไป
- ค่าอากรแสตมป์ อากรแสตมป์เป็นภาษีที่กำหนดขึ้นตามประมวลรัษฎากร ผู้กู้จะต้องเสียค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 0.05% ของวงเงินกู้หรือทุกจำนวนเงิน 2,000 บาทของเงินกู้ยืม
- ค่าธรรมเนียมการไถ่ถอนจำนองก่อนกำหนด (Prepayment Penalty) – ในกรณีที่คุณต้องการชำระหนี้ทั้งหมดเพื่อปิดบัญชีเเละไถ่ถอนจำนองหลักทรัพย์ออกไปภายในระยะเวลา 3 ปีเเรกของการกู้เงิน จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สถาบันการเงินเเต่ละเเห่งได้กำหนดไว้เเตกต่างกันออกไป
ระบบติดตามสถานะการยื่นกู้
นอกจากนั้น โดยปกติในส่วนของ เซลส์ขายอสังหาฯ จะต้องคอยติดตามความเคลื่อนไหวในการยื่นกู้ สินเชื่อ ของลูกบ้านเช่นคุณด้วย เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยระหว่างดำเนินการ แต่จะลดความยุ่งยากลงไปได้มากหากเซลส์ขายอสังหาฯใช้ PLOY Mortgage ระบบติดตามสถานะการยื่นกู้ ที่เชื่อมโยงระหว่างผู้พัฒนาอสังหาฯ และธนาคารชั้นนำทั่วประเทศให้ทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น
และเมื่อผู้กู้ได้ดำเนินการตามขั้นตอนโอนกรรมสิทธิ์ อสังหาฯ นั้นๆ ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ก็จะถือว่าเป็นเจ้าของบ้านโดยสมบูรณ์ และจะทำการเริ่มผ่อนกับสถาบันการเงินตามเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะกำหนดระยะเวลาไว้สูงสุดไม่เกิน 30 ปี โดยที่ผู้กู้อายุไม่เกิน 60 ปี แต่ทั้งนี้หากคุณต้องการผ่อนในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ก็สามารถขอรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินได้เช่นกันโดยมีเงื่อนไขว่าต้องทำการผ่อนชำระมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี
การมีบ้านอาจเป็นจุดเริ่มต้นความฝันของใครหลายคน แต่ในเวลาเดียวกันก็ควรคำนึงอยู่เสมอว่าคุณกำลังจะต้องบริหารหนี้ก้อนโดก้อนหนึ่งในระยะยาว ดังนั้นผู้กู้ควรมีสภาพคล่องทางการเงินและมีการวางแผนที่ดีด้วย
ข้อมูลอ้างอิง : rabbitfinance
เกี่ยวกับ PLOY
PLOY by BUILK คือ โปรแกรมบริหารงานขายสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปลี่ยนภาพลักษณ์ระบบ CRM เดิมๆ ที่จุกจิก ใช้งานยาก ให้เป็นระบบออนไลน์ ที่ช่วยให้ฝ่ายขายโครงการทำงานง่ายขึ้น เก็บข้อมูลสะดวก รวดเร็ว และผู้บริหารได้ดูข้อมูลเรียลไทม์ จากที่ไหนก็ได้
ใน PLOY กระบวนการขายแบบมืออาชีพ จากผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของไทย ถูกนำมาปรับ ให้เหมาะกับผู้พัฒนาอสังหาฯ SMEs ทุกรูปแบบ ตอบสนองแนวคิด Digital Transformation ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างแท้จริง
- เพิ่มยอดขายได้ ไม่ต้องเพิ่มคน!
- ขึ้นระบบเร็ว พร้อมใช้งานได้ภายใน 3 วัน!
- รับประกันความพอใจภายใน 30 วัน ยินดีคืนเงิน!